|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
09,0020,001,เข้าสมาสกับบทอื่นมาก่อน แล้วมาตั้งเป็นสมาสนี้ทีหลัง เช่น อุ.
|
|
09,0020,002,ปุริสสตํ จ อิตฺถีสหสฺสํ จ=ปุริสสติตฺถีสหสฺสํ (สมาหาระ) ร้อยแห่ง
|
|
09,0020,003,บุรุษด้วย พันแห่งสตรีด้วย ชื่อร้อยแห่งบุรุษและพันแห่งสตรี.
|
|
09,0020,004,มีสมาสชนิดหนึ่ง แฝงอยู่กับทวันทวะ อสมาหาระนี้ เวลาเข้า
|
|
09,0020,005,สมาสแล้วลบเสียบทหนึ่ง คงไว้แต่บทเดียวก็มี ท่านเรียกว่า เอกเสส-
|
|
09,0020,006,สมาส เช่น อุ. อุปาสโก จ อุปาสิกา จ=อุปาสกา อุบาสกด้วย
|
|
09,0020,007,อุบาสิกด้วย ชื่อ อุบาสกและอุบาสิกา ท.
|
|
09,0020,008,อุบาสกกับอุบาสิกา เมื่อพูดถึงอุบาสกในกิจบางอย่าง ก็อาจ
|
|
09,0020,009,หมายความอุบาสิกาด้วย เหมือนภาษาไทยเช่นพูดว่ารับประทาน
|
|
09,0020,010,หมาก ก็หมายความถึงพลูด้วย ฉะนั้น เอกเสสสมาสนี้ บทปลงแม้
|
|
09,0020,011,ศัพท์เดียวก็ต้องเป็นพหุวจนะ เช่น สารีปุตฺโต จ โมคฺคลฺลาโน จ=
|
|
09,0020,012,สารีปุตฺตา พระสารีบุตรด้วย พระโมคคัลลานะด้วย ชื่อ พระสารีบุตร
|
|
09,0020,013,และพระโมคคัลลานะ ท. ข้อนี้ควรสังเกตว่าศัพท์ไหนเป็นเอกเสสสมาส
|
|
09,0020,014,หรือว่าหมายเฉพาะบทที่เหลืออยู่บทเดียว ก็ควรดูศัพท์ที่เหลือเป็นของสิ่ง
|
|
09,0020,015,เดียวหรือคน ๆ เดียว แต่เป็นพหุวจนะ หรือข้างต้นของเนื้อความบอก
|
|
09,0020,016,ชื่อมาแล้วหลายอย่าง ภายหลังพูดอย่างเดียว และเป็นพหุวจนะ หรือ
|
|
09,0020,017,ว่าของบางอย่างเป็นของคู่กันอยู่ จะแยกจากกันก็ขาดความประสงค์ไป
|
|
09,0020,018,แต่ท่านใช้เพียงบทเดียว ก็รู้กันได้ตามนิยมของภาษา เช่น ภาษาไทย
|
|
09,0020,019,เราพูดว่ากินหมาก ก็คงหมายความว่าไม่ใช่กินหมากอย่างเดียว คงกิน
|
|
09,0020,020,พลู ปูน ด้วย และบางคราวในภาษาไทยเรา ใช้พหุวจนะให้รู้ก็มี แต่
|
|
09,0020,021,พหุวจนะของเราไม่ได้ใช่คำว่า ทั้งหลาย เสมอไป ใช้คำอื่นก็มี เช่นว่า
|
|
|